ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) ด้วยอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 10.79 จุด หรือ +0.14% ปิดที่ 7,542.73 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. จากอานิสงส์ของสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐ พุ่งขึ้น 8% สู่ระดับ 6.2 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000 เนื่องจากการจ้างงานในภาคก่อสร้าง ภาคการผลิต และภาคการเงิน ปรับตัวสูงขึ้น
การอ่อนค่าของเงินปอนด์ ได้ช่วยกระตุ้นผลกำไรของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลง -0.1078% สู่ระดับ 1.2966 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ จากระดับ 1.3036 ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กในคืนวันจันทร์
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ตามทิศทางของราคาแร่เหล็ก ถึงแม้ในระหว่างวัน หุ้นกลุ่มเหมืองแร่จะถูกกดดันจากรายงานยอดส่งออกและนำเข้าของจีนที่ชะลอตัวลงก็ตาม โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ขยับขึ้น 0.1%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นหลังร่วงลงในระหว่างวันจากแรงกดดันของรายงานสมาคมผู้ค้าปลีกอังกฤษ (British Retail Consortium - BRC) ซึ่งระบุว่า ยอดขายปลีกของสหราชอาณาจักรขยายตัวเพียง 0.9% ในเดือนก.ค. ชะลอตัวลงจากระดับ 1.1% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ เพิ่มขึ้น 1% และหุ้นคิงฟิชเชอร์ เพิ่มขึ้น 1.3%