ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เกาหลีเหนือวางแผนโจมตีเกาะกวมภายในกลางเดือนนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง เฮงเค็ล
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 376.05 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,014.30 จุด ลดลง 139.70 จุด หรือ -1.15% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,115.23 จุด ลดลง 30.47 จุด หรือ -0.59% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,389.94 จุด ลดลง 108.12 จุด หรือ -1.44%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยล่าสุดสำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า กองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) กำลังพิจารณาแผนการยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง Hwasong-12 จำนวน 4 ลูกพร้อมกัน โดยให้ตกลงห่างจากเกาะกวม 30-40 กม. ซึ่งการยิงขีปนาวุธดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในกลางเดือนนี้
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐ หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้ พร้อมกับกล่าวว่า การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
หุ้นเฮงเค็ล (Henkel) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภครายใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม "Schwarzkopf" ร่วงลง 4.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 2.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2%
ส่วนหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลดลง 0.4% หุ้นดิอาจิโอ ปรับตัวลง 0.9% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ร่วงลง 1.6%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสร่วงลง 1.1% ในเดือนมิ.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสจะลดลงเพียง 0.5%