ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือที่ทวีความรุนแรง ขณะที่ปัจจัยภูมิศาสตร์รัฐศาสตร์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองดีดตัวขึ้น
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 31,355.92 จุด ลดลง 175.41 จุด, -0.56% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,926.38 จุด ลดลง 517.62 จุด, -1.89% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,769.17 จุด ลดลง 8.60 จุด, -0.48%
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังคงเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกโรงเตือนเกาหลีเหนือว่า เขาพร้อมที่จะยกระดับมาตรการจัดการกับเกาหลีเหนือให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม หากเกาหลีเหนือยังทำตัวเป็นปรปักษ์กับสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์มีขึ้น หลังจากมีรายงานว่า เกาหลีเหนือวางแผนยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง Hwasong-12 จำนวน 4 ลูกพร้อมกัน โดยให้ตกลงห่างจากเกาะกวม 30-40 กม. ซึ่งการยิงขีปนาวุธดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในกลางเดือนนี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์ ไตรมาส 2 ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระบุว่า GDP ขยายตัวเพียง 0.4% นอกจากนี้ GDP ไตรมาส 2 ยังออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.5%
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 2.9% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.5%
ส่วนข้อมูลดัชนี CPI ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยคืนนี้นั้น นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในระยะกลางสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
นายดัดลีย์ระบุว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์ และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยหนุนอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเมื่อเทียบรายเดือน ถึงแม้อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบรายปีดีดตัวขึ้นจากระดับที่ต่ำมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า "ปัจจัยจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งช่วยผลักดันราคานำเข้า รวมทั้งตลาดแรงงานที่ตึงตัว ซึ่งทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้น จะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อปรับตั้งขึ้น"