ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร หลังจากมีรายงานว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะไม่ส่งสัญญาณการใช้นโยบายใหม่ในการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์หน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 379.09 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,263.86 จุด เพิ่มขึ้น 86.82 จุด หรือ +0.71% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,176.61 จุด เพิ่มขึ้น 36.36 จุด หรือ +0.71% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,433.03 จุด เพิ่มขึ้น 49.18 จุด หรือ +0.67%
หุ้นกลุ่มส่งออกได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของยูโร หลังจากมีรายงานว่า ประธาน ECB จะไม่ส่งสัญญาณการใช้นโยบายใหม่ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ จัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ โฆษกของ ECB กล่าวว่า นายดรากีจะกล่าวถ้อยแถลงในวันที่ 25 ส.ค. ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า นายดรากีจะระงับการหารือนโยบายจนกว่าจะถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตามที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ตกลงกันในการประชุมเดือนก.ค. ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า นายดรากีอาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะลดการพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
หุ้นเฟียต ไครสเลอร์ พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งของจีนกำลังพิจารณาเข้าซื้อกิจการเฟียต ไครสเลอร์
หุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ขยับขึ้น 0.2% จากข่าวที่ว่า เฟียต ไครสเลอร์ ประกาศความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทซึ่งนำโดยบีเอ็มดับเบิลยู เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ปลอดภัย
หุ้นกลุ่มเหมือนแร่ปรับตัวขึ้น หลังจากราคาโลหะจำพวกทองแดงและสังกะสี ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 3.6% หุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 4.2% และหุ้นริโอทินโต ปรับขึ้น 2.4%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ซึ่งระบุว่า จำนวนคนว่างงานในช่วง 3 เดือนถึงเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 57,000 คน ส่งผลให้อัตราว่างงานลดลงจากเดิม 4.5% เหลือ 4.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 42 ปี
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยรายงานดังกล่าวจะมีการเปิดเผยหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว