ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) จากแรงกดดันทางปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังสหรัฐและเกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบประจำปีร่วมกัน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือทวีความตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 5.10 จุด หรือ -0.07% ปิดที่ 7,318.88 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ ภายหลังจากสหรัฐและเกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบประจำปีร่วมกัน ซึ่งทำให้เกาหลีเหนือออกมาประกาศเตือนว่า การซ้อมรบดังกล่าวถือเป็น "พฤติการณ์ที่ปราศจากการยั้งคิด" ซึ่งอาจจุดชนวนสู่สงครามนิวเคลียร์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
นักวิเคราะห์จากอาร์บีซี กล่าวว่า "สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในระหว่างที่สหรัฐและเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้ ขณะที่เกาหลีเหนือประณามการซ้อมรบครั้งนี้ว่า เป็นการฝึกซ้อมของศัตรูเพื่อเตรียมที่จะรุกราน"
"เราคิดว่าสถานการณ์ความไม่แน่นอนจะดำเนินไปจนถึงต้นเดือนก.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นานาชาติดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือระลอกใหม่ตามมติของสหประชาชาติ ขณะที่เกาหลีเหนือเตรียมเฉลิมฉลองวันคล้ายวันสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในวันที่ 9 ก.ย.นี้"
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นไชร์ พุ่งขึ้น 4% หลังผู้ผลิตเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยว่า นายเจฟฟ์ พอลตัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทเตรียมก้าวลงจากตำแหน่งในสิ้นปีนี้ เพื่อไปเป็นผู้บริหารให้กับบริษัทสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งในสหรัฐ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่มขึ้น 1.1% และหุ้นริโอ ทินโต ขยับขึ้น 0.8%