ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) ตามทิศทางของตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ สืบเนื่องจากความวิตกกังวลในตลาด ภายหลังจากเกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 6 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 27.03 จุด หรือ -0.36% ปิดที่ 7,411.47 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยเฉพาะหุ้นผู้ผลิตแร่ทองคำรายใหญ่อย่างแรนด์โกลด์ รีซอสเซสที่พุ่งขึ้น 2% ด้วยแรงหนุนจากราคาทองทำที่ทะยานขึ้นเกือบ 1% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนได้แห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและสามารถบรรจุเข้าไปในหัวรบของขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ได้เป็นผลสำเร็จ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมที่จะทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปอีกครั้งในเร็วๆนี้ ซึ่งสร้างความวิตกให้กับนักลงทุนมากขึ้น
ค่าเงินสกุลปอนด์ทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังก์สวิส ซึ่งเป็นสกุลเงินที่นักลงทุนมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
นักวิเคราะห์จากซิตี้ อินเดกซ์ กล่าวว่า "ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากการที่เกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวเคลียร์นั้น ได้กลบกระแสการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ หรือ BRICS Summit ที่เมืองเซี่ยเหมินของจีนจนหมดสิ้น"
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของอังกฤษที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยผลสำรวจว่า ดัชนี PMI ภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักรปรับตัวลงแตะ 51.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 51.8