ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความล่าช้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,753.31 จุด ร่วงลง 234.25 จุด หรือ -1.07% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,375.57 จุด ลดลง 59.76 จุด หรือ -0.93% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,457.85 จุด ลดลง 18.70 จุด หรือ -0.76%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลงเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวการทดสอบยิงอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมทั้งรายงานข่าวของสื่อเกาหลีใต้ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือเริ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) โดยเป็นการเคลื่อนย้ายเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการสันนิษฐานของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ก่อนหน้านี้ที่ว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือมีความพร้อมที่จะยิงขีปนาวุธ ICBM ครั้งใหม่ และยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนายแฮร์รี่ คาเซียนิส ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักศึกษาด้านการป้องกันประเทศของศูนย์พิทักษ์ผลประโยชน์แห่งชาติสหรัฐซึ่งระบุว่า เกาหลีเหนืออาจจะทำการทดลองยิงขีปนาวุธ ICBM ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.นี้ เพื่อเฉลิมฉลองวันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความล่าช้าของคณะทำงานประธานาธิบดีทรัมป์ ในการผลักดันมาตรการต่างๆให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งรวมถึงมาตรการปฏิรูปภาษี ขณะเดียวกันนักลงทุนยังกังวลว่า หน่วยงานของรัฐบาลอาจจะต้องปิดทำการ หากทำเนียบขาวไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 5.7% หลังจากยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ด้านการบินและอวกาศ ประกาศทุ่มเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกิจการบริษัทร็อคเวลล์ คอลลินส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัสดุตกแต่งภายในของธุรกิจการบิน โดยภายใต้ข้อตกลงการซื้อกิจการครั้งนี้ ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์จะจับมือกับร็อคเวลล์ คอลลินส์ในการดำเนินธุรกิจด้านการบินและอวกาศ
ทั้งนี้ ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของโบอิ้ง และแอร์บัส ซึ่งการร่วงลงของหุ้น ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ได้ฉุดหุ้นโบอิ้ง ดิ่งลง1.4% อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นร็อคเวลล์ คอลลินส์ ดีดตัวขึ้น 0.3%
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.5% หลังจากทางสายการบินได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.079% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2016 โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.6% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ร่วงลงกว่า 2%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดิ่งลง 3.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 หลังจากเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนมิ.ย. โดยมีสาเหตุจากอุปสงค์ที่ลดลงในคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ซึ่งทรุดตัวลง 70.8%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.