ตลาดหุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ เพื่อดูว่านายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 373.95 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,214.54 จุด เพิ่มขึ้น 90.83 จุด หรือ +0.75% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,101.41 จุด เพิ่มขึ้น 14.85 จุด หรือ +0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,354.13 จุด ลดลง 18.79 จุด หรือ -0.25%
หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากนักวิเคราะห์ของสถาบันการเงินหลายแห่งได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทรถยนต์รายใหญ่
หุ้นเดมเลอร์ พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเดมเลอร์ขึ้นสู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral" ขณะที่หุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ขึ้นสู่ระดับ "overweight" จากระดับ "equalweight"
ส่วนหุ้นโฟล์คสวาเกน และหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ต่างก็พุ่งขึ้น 1.6%
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี และความเป็นไปได้ที่ว่าเกาหลีเหนืออาจจะทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.นี้ เพื่อฉลองวันชาติ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานประจำเดือนก.ค.ของเยอรมนี หดตัวลง 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.4%
นักลงทุนจับตาการประชุม ECB ในวันนี้ ซึ่ง ECB อาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE