ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังได้รับแรงฉุดจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มประกันภัย สืบเนื่องจากนักลงทุนวิตกผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน "เออร์มา" ที่กำลังจ่อพัดถล่มรัฐฟลอริดาของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 18.79 จุด หรือ -0.25% ปิดที่ 7,354.13 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ยังคงถูกกดดันจากสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินปอนด์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1.3069 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ จากระดับ 1.3033 ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กในวันอังคาร
การแข็งค่าของเงินปอนด์ได้ฉุดหุ้นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง โดยหุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ลดลง 1.4% หุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ ร่วง 2.7% และหุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ ขยับลง 0.9%
หุ้นกลุ่มประกันภัยปรับตัวลงตามทิศทางของหุ้นกลุ่มเดียวกันในยุโรป จากกระแสความวิตกกังวลว่า พายุเออร์มา ซึ่งได้เพิ่มกำลังแรงขึ้นเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 จะสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่พายุดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวจากทะเลแคริบเบียนเข้าพัดถล่มเปอร์โตริโก หมู่เกาะเวอร์จิน และรัฐฟลอริดาของสหรัฐ โดยหุ้นพรูเด็นเชียล บริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ ลดลง 0.8%
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นเบิร์กเลย์ กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% หลังบริษัทสร้างบ้านรายใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงลอนดอนยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่แน่นอน หลังอังกฤษเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)