ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเหมืองแร่ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง หลังจากแอปเปิลประกาศเปิดตัว "ไอโฟนเท็น (iPhone X)" ซึ่งนักลงทุนมองว่ามีราคาแพงและมีกำหนดวางจำหน่ายล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.08 จุด ปิดที่ 381.34 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,379.70 จุด ลดลง 20.99 จุด หร่อ -0.28% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,553.57 จุด เพิ่มขึ้น 28.80 จุด หรือ +0.23% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,217.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.58 จุด หรือ +0.16%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง ตามทิศทางราคาโลหะส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอันโตฟากัสตา ดิ่งลง 3.9% หุ้นเฟรสนิลโล ร่วงลง 3.6% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 3.2%
หุ้นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง หลังจากแอปเปิลประกาศเปิดตัว "ไอโฟนเท็น" เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีของการผลิตไอโฟน โดยไอโฟนเท็นมีราคาตั้งต้นที่ 999 ดอลลาร์ และจะมีการวางจำหน่ายในวันที่ 3 พ.ย. อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การที่บริษัทแอปเปิลกำหนดเวลาการวางจำหน่ายไอโฟนเท็นในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งล่าช้ากว่าการวางจำหน่ายไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการในไตรมาส 4 ของแอปเปิล
ทั้งนี้ หุ้นไดอะล็อก เซมิคอนดัคเตอร์ ร่วงลง 1.6% และหุ้นเอเอ็มเอส ดิ่งลง 3.9%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ค่าแรงของคนงานในอังกฤษเพิ่มขึ้น 2.1% ในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ค่าแรงเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดนั้น จะลดความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ธนาคารกลางได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ รวมทั้งคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์ ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา