ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ด้วยอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่า และแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้นขานรับรายงานยอดขายที่สดใสของห้างซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 21.97 จุด หรือ +0.30% ปิดที่ 7,275.25 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนก่อนหน้านี้ หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
นักลงทุนในตลาดจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะประกาศแผนปรับลดงบดุลบัญชี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธนาคารที่มีการดำเนินงานในสหรัฐปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอชเอสบีซี เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ เพิ่มขึ้น 1% และหุ้นบาร์เคลย์ส ขยับขึ้น 0.5%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้น หลังแคนตาร์ เวิลด์แพเนล รายงานว่า ยอดขายของซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นการขยายตัวเกิน 3% เป็นเวลา 6 เดือนติดต่อกัน โดยหุ้นเจ เซนส์บิวรี พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ต พุ่งขึ้น 2% และหุ้นเทสโก้ เพิ่มขึ้น 1%