ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนืออาจทำการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ข่มขู่ว่าจะถล่มเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก หากสหรัฐถูกคุกคาม โดยนักลงทุนมองว่าหากยังไม่มีการใช้มาตรการทางการทหารอย่างจริงจัง ก็ยังไม่มีอะไรน่ากังวล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 9.64 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 22,349.59 ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 1.62 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 2,502.22 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 4.23 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 6,426.92 จุด
สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.4% ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.1% ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.3%
หุ้นแอปเปิลยังคงถ่วงตลาด โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการดิ่งลงของราคาหุ้นแอปเปิลเกิดจากการรีวิวผลิตภัณฑ์ไอโฟน 8 และแอปเปิล วอทช์ ที่ไม่ค่อยน่าประทับใจนัก
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มโทรคมนาคมทะยาน 1.4%
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่นายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐแอริโซนา กล่าวว่า เขาไม่สามารถโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายประกันสุขภาพ "คาสซิดี-เกรแฮม"
ในสัปดาห์หน้า คณะกรรมาธิการการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐเตรียมเปิดการอภิปรายเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ เพื่อนำมาบังคับใช้แทนที่กฎหมายโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า "คาสซิดี-เกรแฮม" ซึ่งผลักดันโดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันอย่าง บิล คาสซิดี และ ลินด์ซีย์ เกรแฮม
นายออร์ริน แฮตช์ ประธานคณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภา เปิดเผยว่า การพิจารณาร่างกฎหมายเฮลธ์แคร์ฉบับใหม่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ก.ย.นี้ โดยวุฒิสภาจะลงมติว่าเห็นชอบในร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ภายในวันที่ 30 ก.ย.
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติคัดค้านแผน "ยกเลิกและแทนที่" (Repeal and Replace) กฎหมายประกันสุขภาพของรัฐบาลชุดก่อน หรือ "โอบามาแคร์" ด้วยคะแนนเสียง 57 ต่อ 43 คะแนน
พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมด 52 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง ทั้งนี้ การออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านของวุฒิสมาชิกนั้น ส่งผลให้พรรครีพับลิกันไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้เพียงพอต่อการโหวตล้มเลิกกฎหมายโอบามาแคร์ในวุฒิสภาได้ เนื่องจากพรรคต้องการเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 50 เสียง บวกกับคะแนนเสียงชี้ขาดจากรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากัน
ส่วนทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-บริการเบื้องต้นของสหรัฐ ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 54.6 ในเดือนก.ย. จากระดับ 55.3 ในเดือนส.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
ดัชนี PMI ภาคการผลิตแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 53.0 ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.8 ในเดือนส.ค.
ดัชนี PMI ภาคบริการแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 55.1 ในเดือนก.ย. ลดลงจากระดับ 56.0 ในเดือนส.ค.