ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 20.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 48 จุด หรือ 0.22% สู่ระดับ 22,307 จุด
นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีในวันนี้เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้ 02.00 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยถึงแผนการปรับลดภาษีของเขาในการกล่าวปราศรัยที่เมืองอินเดียนาโพลิสในวันนี้
คาดว่าปธน.ทรัมป์จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล สู่ระดับ 20% และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากเดิมที่ 39.6%
ทางด้านนางเยลเลนกล่าววานนี้ว่า เฟดจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถึงแม้ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางของเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ คำกล่าวของนางเยลเลนเป็นการยอมรับถึงความยากลำบากในการคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของนโยบายการเงินของเฟด
ประธานเฟดระบุว่า ถึงแม้ยังคงมีความไม่แน่นอนจำนวนมากเกี่ยวกับการปรับตัวของเงินเฟ้อ แต่ก็จะเป็นการไม่เหมาะสมที่เฟดจะคงนโยบายการเงินไว้จนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%
นางเยลเลนกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดอาจจะมีความผิดพลาดในการสร้างแบบจำลองเงินเฟ้อ และพิจารณาผิดพลาดเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
นางเยลเลนระบุว่า ถึงแม้ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของเงินเฟ้อจนทำให้เฟดต้องหันเหออกจากแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เฟดก็จำเป็นต้องเปิดกว้างต่อความเป็นไปได้ดังกล่าว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนส.ค. หลังจากร่วงลง 6.8% ในเดือนก.ค.
การดีดตัวของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และรถยนต์
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
เมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานดีดตัวขึ้น 3.3% ในเดือนส.ค.