ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลง บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มอ่อนแรงลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ในวันนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้เช่นกัน
ณ เวลา 18.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลง 20 จุด หรือ 0.09% แตะที่ระดับ 22,278 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลงก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 2 ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย
สำหรับการประมาณการครั้งที่ 2 ของตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ซึ่งได้มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น GDP มีการขยายตัว 3.0% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 2.6% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนในภาคเอกชนที่ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น
ส่วนในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 56.39 จุด หรือ +0.25% ขานรับแผนการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ กระตุ้นการจ้างงาน และสนับสนุนกลุ่มคนทำงานและภาคครัวเรือนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นอกเหนือจากตัวเลข GDP แล้ว นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดในวันนี้ ซึ่งรวมถึงนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ และนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งธนาคารกลางอังกฤษจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนในวันนี้ โดยการแสดงความเห็นของนายฟิสเชอร์ วัย 74 ปีในครั้งนี้ถูกจับตาอย่างมาก หลังจากที่เขาได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลส่วนตัว
ทั้งนี้ การลาออกของนายฟิสเชอร์จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 13 ต.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 12 มิ.ย.ปีหน้า ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ปธน.ทรัมป์ส่งคนของตนเข้ารับตำแหน่งในคณะกรรมการเฟด ในช่วงที่เฟดกำลังดำเนินการปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่ภาวะปกติ ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดงบดุลจากวงเงิน 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้