ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) จากอานิสงส์ของสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2560 ซึ่งขยายตัวเพียง 1.5% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 1.7% ในรายงานประมาณการก่อนหน้านี้
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 49.94 จุด หรือ +0.68% ปิดที่ 7,372.76 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้รับอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลัง ONS เปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2560 ที่ขยายตัวเพียง 1.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.3125% สู่ระดับ 1.3381 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ จากระดับ 1.3441 ดอลลาร์ ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันพฤหัสบดี
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์ ได้ช่วยกระตุ้นผลกำไรในต่างประเทศของบริษัทข้ามชาติเมื่อมีการแปลงสกุลเงินกลับมาเป็นสกุลปอนด์ โดยหุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นยูนิลีเวอร์ เพิ่มขึ้น 1.5% และหุ้นสมิธแอนด์เนฟฟิว ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ระดับชั้นนำ เพิ่มขึ้น 1.1%
หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้น หลังเนชั่นไวด์ บิลดิง โซไซตี เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. หลังจากที่หดตัวลง 0.1% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบเป็นรายปีแล้ว ราคาบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ขยายตัว 2.1% ในเดือนก่อนหน้า
หุ้นเพอร์ซิมมอน เพิ่มขึ้น 2.1% หุ้นเทย์เลอร์ วิมปีย์ เพิ่มขึ้น 1.9% และหุ้นบาร์ราตต์ เดเวลลอปเมนต์ส เพิ่มขึ้น 1.2%