ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองในสเปน หลังจากผู้นำแคว้นกาตาลุญญายืนยันว่าจะประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากสเปนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่หุ้นบริษัทจดทะเบียนของสเปนร่วงลงอย่างหนัก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 390.40 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,363.23 จุด ลดลง 4.18 จุด หรือ -0.08% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,970.52 จุด เพิ่มขึ้น 67.87 จุด หรือ +0.53% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,467.58 จุด ลดลง 0.53 จุด หรือ -0.01%
นักวิเคราะห์จากลอนดอน แคปิตอล กรุ๊ป กล่าวว่า ความวุ่นวายทางการเมืองในสเปนส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้นำของแคว้นกาตาลุญญาได้ออกมาย้ำว่า กาตาลุญญาจะแยกตัวเป็นอิสระจากสเปนในเร็วๆนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกที่ควรได้รับจากการที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี IBEX 35 ตลาดหุ้นสเปนดิ่งลง 2.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารของสเปนดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นบังโค เด ซาบาเดลล์ ร่วงลง 5.7% หุ้นไคซาแบงก์ ร่วงลง 5% หุ้นบังเกีย ดิ่งลง 3.7% และหุ้นบีบีวีเอ ร่วงลง 3.6%
หุ้นเทสโก ห้างค้าปลีกชั้นนำ ร่วงลง 3.2% หลังจากที่ทะยานขึ้นในระหว่างวัน หลังเทสโกเปิดเผยว่าจะกลับมาจ่ายเงินปันผลอีกครั้ง ขณะที่บริษัทมีผลกำไรก่อนหักภาษีพุ่งขึ้น 8 เท่า ในรอบ 26 สัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ส.ค.
ขณะที่หุ้นซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่อื่นๆ ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นเจ เซนส์บิวรี ลดลง 2.4% และหุ้นดับบลิวเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ลดลง 2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นเดมเลอร์ ปรับขึ้น 1.2%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางของราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ขยับขึ้น 0.8% และหุ้นริโอ ทินโต ขยับขึ้น 0.6%