ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวกว่า 100 จุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ขานรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติงบประมาณสำหรับปี 2018 ในวันนี้ ซึ่งจะปูทางสำหรับการเริ่มต้นพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 00.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,753.99 จุด เพิ่มขึ้น 92.35 จุด หรือ 0.41% หลังพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทะยานขึ้นมากที่สุด
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติงบประมาณวงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2018 ในวันนี้ ซึ่งจะปูทางให้สภาคองเกรสเริ่มต้นกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้
ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนฉิวเฉียด 219-206 เสียง โดยสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายรายจับมือกับพรรคเดโมแครตในการโหวตคว่ำงบประมาณฉบับนี้
คาดว่าคณะกรรมาธิการงบประมาณประจำวุฒิสภาจะลงมติให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวในวันนี้ ก่อนที่วุฒิสภาเต็มคณะจะทำการลงมติในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 2.7% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 4.24 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ขาดดุล 4.36 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 4.27 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 1.953 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2014 ส่วนการส่งออกสินค้าแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 ขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 0.1% สู่ระดับ 2.377 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าสินค้าแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2016
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 260,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 265,000 ราย
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 135 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันพรุ่งนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้นเพียง 90,000-100,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4% ในเดือนก.ย.
นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เขายังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ และ 3 ครั้งในปีหน้า
"ผมยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า แต่เราก็จำเป็นต้องพิจารณาภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐด้วย" เขากล่าว
นายฮาร์เกอร์ยังระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงมีการขยายตัวที่ราว 2% จนกว่าสภาคองเกรสจะสามารถผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายฮาร์เกอร์กล่าวว่า การขยายตัวของสหรัฐจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 2% เล็กน้อย จนกว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษีของทางทำเนียบขาว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก รวมทั้งนายเจอโรม พาวเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยนายพาวเวลล์เป็นหนึ่งในตัวเก็งที่มีโอกาสรับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า