ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มว่านายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.89 จุด ลดลง 14.98 จุด หรือ -0.20%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากมีรายงานว่า นางเมย์เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มที่นายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากที่มีข่าวว่าพยายามท้าทายอำนาจของนางเมย์
ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทข้ามชาติในอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินสกุลอื่นๆ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะปรับตัวลดลง หลังจากมาร์กิตและไฉซินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีน ร่วงลงแตะระดับ 50.6 จากระดับ 52.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
ทั้งนี้ หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 3.4% หุ้นริโอทินโต ดิ่งลง 2.2% และหุ้นเกลนคอร์ ร่วงลง 1.3%
หุ้นอีซี่เจ็ท ร่วงลง 2.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของเอชเอสบีซีได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นอีซีเจ็ท
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองทองคำดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ขยับขึ้น 0.9% หุ้นฮอชชิลด์ ไมนิ่ง พุ่งขึ้น 4.3% และหุ้นอาคาเซีย ไมนิ่ง ปรับตัวขึ้น 3.7%