ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทวอลมาร์ทมีแผนซื้อคืนหุ้นในวงเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทั้งนี้ นายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส และนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้
ณ เวลา 21.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,803.54 จุด เพิ่มขึ้น 42.47 จุด หรือ 0.19%
หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นวอลมาร์ททะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ราคาหุ้นวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้นมากกว่า 4% หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะทำการซื้อคืนหุ้นในวงเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่มีการประกาศในเดือนต.ค.2558 โดยโครงการซื้อคืนหุ้นดังกล่าวจะมีการดำเนินการในช่วงระยะเวลา 2 ปี
นอกจากนี้ วอลมาร์ทยังได้ประกาศคงตัวเลขคาดการณ์กำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2561 ที่ระดับ 4.30-4.40 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน วอลมาร์ทคาดว่าธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในสหรัฐของบริษัทจะมียอดขายพุ่งขึ้น 40% ในปีงบการเงิน 2562 ขณะที่การทำธุรกรรมออนไลน์ทะยานขึ้น 60% ในไตรมาส 2 ของปีนี้
วอลมาร์ทยังประกาศแผนการเพิ่มจุดรับสินค้าออนไลน์อีก 1,000 แห่งในสาขาของสหรัฐในปีงบการเงิน 2562
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผู้ที่มีแนวโน้มขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า เขาจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้ประธานเฟดคนใหม่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยนายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟดสายเหยี่ยว ซึ่งสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้รับการคาดการณ์ว่าจะขึ้นมาเป็นประธานเฟดคนใหม่
นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ รายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน