ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) จากปัจจัยความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในกระบวนการเจรจา Brexit ระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับสหภาพยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.06% ปิดที่ 7,533.81 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกระบวนการเจรจาเพื่อแยกตัวจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมานั้น นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่า ท้ายที่สุดแล้ว นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษจะได้รับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ในการผลักดันแผนการ Brexit ของเธอต่อไป
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจา Brexit นั้น นายกฯเมย์กล่าวว่า เวลานี้หน้าที่ได้ตกเป็นของฝ่ายสหภาพยุโรปในการผลักดันให้การเจรจาเดินหน้าต่อไป โดยเธอกล่าวเตือนด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังเตรียมแผนรับมือ หากการเจรจา Brexit เกิดความล้มเหลวโดยที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆได้
ทั้งนี้ การเจรจารอบที่ 5 ระหว่างคณะผู้แทนของสหราชอาณาจักรและ EU ที่กรุงบรัสเซลส์ ได้ประสบกับภาวะชะงักงันเมื่อวานนี้ โดยหลังจากนี้ EU เตรียมที่จะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรประหว่างวันที่ 19-20 ต.ค.นี้ เพื่อตัดสินใจว่า การเจรจา Brexit ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าเพียงพอที่จะเดินหน้าจัดการเจรจาในขั้นต่อไปหรือไม่ ซึ่งรวมถึงการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าระดับทวิภาคีระหว่างอังกฤษกับ EU
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นสมิธแอนด์เนฟฟิว พุ่งขึ้น 3.1% หลังมีรายงานว่า เอลเลียต แมเนจเมนท์ คอร์ป ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้เข้าถือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ดังกล่าว