ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสเปน หลังจากนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ไม่มีความชัดเจนในการประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ขณะที่นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ได้ปฏิเสธข้อเสนอของนายปุกเดมองต์ ที่ต้องการเจรจากับรัฐบาลสเปนเกี่ยวกับการประกาศเอกราชของแคว้นกาตาลุญญา
ดัชนี European Stoxx Europe 600 ปิดที่ระดับ 390.15 จุด โดยขยับขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดของวันอังคารที่ 390.16 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,970.68 จุด เพิ่มขึ้น 21.43 จุด หรือ +0.17% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,362.41 จุด ลดลง 1.24 จุด หรือ -0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.81 จุด ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.06%
ส่วนดัชนี IBEX 35 ตลาดหุ้นสเปนพุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ระดับ 10,278.40 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในสเปน เนื่องจากผู้นำแคว้นกาตาลุญญาไม่มีความชัดเจนในการประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน
รัฐบาลสเปนได้ให้เวลาเพียง 5 วันแก่นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ในการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เขาได้ประกาศเอกราชจากสเปนหรือไม่ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การที่รัฐบาลสเปนยื่นคำขาดเช่นนั้น จะทำให้นายปุกเดมองต์เผชิญแรงกดดัน ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจใช้ทางเลือกใดก็ตาม
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า รัฐบาลสเปนจะไม่ปล่อยให้แคว้นกาตาลุญญาแยกตัวออกไป เนื่องจากจะทำให้มูลค่าจีดีพีของสเปนหายไปถึง 1 ใน 5 ขณะที่การส่งออกจะหดตัวลงมากกว่า 1 ใน 4
หุ้นสมิธแอนด์เนฟฟิว ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ พุ่งขึ้น 3.1% หลังมีรายงานว่า เอลเลียต แมเนจเมนท์ คอร์ป ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ได้เข้าถือหุ้นของบริษัทสมิธแอนด์เนฟฟิว