ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) แม้ผลประกอบการซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน เชส จะออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม โดยตลาดพักฐานหลังจากดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันก่อน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,841.01 จุด ลดลง 31.88 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,550.93 จุด ลดลง 4.31 จุด หรือ -0.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,591.51 จุด ลดลง 12.04 จุด หรือ -0.18%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพักฐาน หลังจากที่ทั้งดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮเมื่อวันพุธ โดยภาวะการซื้อขายในวันพฤหัสบดีค่อนข้างเงียบเหงา ทั้งสามดัชนีหลักแกว่งตัวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนซึมซับผลประกอบการของภาคธนาคารสหรัฐ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยวานนี้
ซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดย ซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 1.8173 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.42 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 3 ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ระดับ 1.7896 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.32 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 3
ส่วนเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เช่นกัน ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 2.62 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.76 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 3 ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ระดับ 2.523 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.65 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 3
ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบรรดาธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐที่เริ่มเปิดฉากการรายงานงบการเงินไตรมาส 3 วานนี้ สำหรับสถาบันการเงินที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ยังรวมถึง แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก
ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 243,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 251,000 ราย
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในรัฐเท็กซัส และฟลอริดายังคงปรับตัวลง หลังจากที่พุ่งขึ้นในช่วงที่ถูกพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มาพัดถล่ม
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 136 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI เดือนที่แล้วนั้นได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีของราคาน้ำมันเบนซิน ขณะที่การผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 2.6% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นเดียวกันในเดือนส.ค. ขณะที่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนก.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.9% ในเดือนส.ค.
หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วง 3.4% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลบ 0.9% แม้ธนาคารทั้งสองแห่งเผยผลประกอบการแข็งแกร่ง
หุ้นโดมิโน่ พิซซ่า ร่วง 3.9% แม้บริษัทรายงานกำไรและยอดขายดีเกินคาดเช่นกัน
หุ้นเอทีแอนด์ที บริษัทโทรคมนาคม ดิ่ง 6.1% หลังบริษัทรายงานจำนวนผู้ใช้บริการวิดีโอลดลงอย่างมากในไตรมาส 3 ส่วนหุ้นจูนิเปอร์ เน็ตเวิร์คส์ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่าย ดิ่ง 5.2% หลังบริษัทเตือนเรื่องแนวโน้มผลประกอบการภายหลังปิดตลาดเมื่อวันพุธ