ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) หลังจากที่บริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้มีการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.29% ปิดที่ 391.56 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 13,043.03 จุด เพิ่มขึ้น 47.97 จุด, +0.37% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,383.81 จุด เพิ่มขึ้น 22.44 จุด, +0.42% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,542.87 จุด เพิ่มขึ้น 26.70 จุด, +0.36%
หุ้นอั๊คโซ่ โนเบล บริษัทเคมีภัณฑ์สัญชาติดัตช์ ลดลง 1.84% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 พร้อมกับคาดการณ์ว่าพัฒนาการเชิงบวกในอเมริกาเหนือ รวมถึงยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (ยกเว้นสหราชอาณาจักร) จะดำเนินต่อไป อย่างไรก็ดี บริษัทจะยังคงเผชิญกับ "ลมต้าน"
หุ้นริโอ ทินโต ร่วงลงเกือบ 3% หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงต่อบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย รวมถึงอดีตผู้บริหารของบริษัทอีก 2 ราย เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นรายงานมูลค่าสินทรัพย์สูงเกินจริงเพื่อปกปิดตัวเลขขาดทุน
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสื่อ ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า
ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า จำนวนคนว่างงานในอังกฤษลดลง 52,000 คนในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. มาอยู่ที่ 1.4 ล้านคน ขณะที่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวที่ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2518
อย่างไรก็ตาม ค่าแรงยังปรับตัวตามหลังอัตราเงินเฟ้อ โดยตัวเลขค่าแรงที่แท้จริงลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในสเปน รวมถึงการเจรจาเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างใกล้ชิด