ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกช่วงแคบเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินปอนด์ หลังจากสถานการณ์ Brexit มีความคืบหน้าในเชิงบวก
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,523.23 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด หรือ +0.00%
ตลาดหุ้นลอนดอนเปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทข้ามชาติ อันเนื่องจากเงินปอนด์อ่อนค่า อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเงินปอนด์ได้แข็งค่าขึ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวว่า การเจรจา Brexit ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่เขาหวังว่าการเจรจา Brexit จะสามารถเข้าสู่ช่วงที่ 2 ในเดือนธ.ค.
"ผมไม่ต้องการให้การเจรจาจบลงโดยไม่มีการทำข้อตกลง แต่ผมต้องการบรรลุข้อตกลงที่ดีกับอังกฤษ" เขากล่าว หลังการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป 27 ชาติ โดยไม่มีอังกฤษเข้าร่วมการประชุม
ทางด้านนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้คำมั่นต่อสหภาพยุโรป (EU) ว่า อังกฤษจะยึดมั่นในพันธกรณีด้านการเงินต่อ EU พร้อมกับสร้างความมั่นใจว่าพลเมืองของ EU จำนวน 3 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในอังกฤษจะได้รับการปฏิบัติที่ยุติธรรม และเท่าเทียมกับชาวอังกฤษ
หุ้นยูนิลีเวอร์ร่วงลง 3.2% หลังจากหลังบริษัทเปิดเผยว่า มีรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 2.6% ในไตรมาส 3 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3.9%
ยูนิลีเวอร์ชี้แจงว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของบริษัทมาจากปัญหาสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในยุโรป และอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนหลายลูกในสหรัฐ
ขณะที่หุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเตลส์ ปรับตัวลง 0.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการ
ตลอดสัปดาห์นี้ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 0.2%