ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ขานรับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ประกาศขยายเวลาการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2562 เป็นอย่างน้อย ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดพุ่งขึ้น 1.1% แตะระดับ 391.27 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,133.28 จุด เพิ่มขึ้น 179.87 จุด หรือ +1.39% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,455.40 จุด เพิ่มขึ้น 80.51 จุด หรือ +1.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,486.50 จุด เพิ่มขึ้น 39.29 จุด หรือ +0.53%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง หลังจาก ECB ประกาศว่าจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรลงจากระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน เหลือ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน ตั้งแต่ปีหน้า แต่จะขยายเวลาโครงการ QE เพิ่มอีก 9 เดือนจนถึงเดือนก.ย.เป็นอย่างน้อย พร้อมกับสัญญาณว่าอาจจะพิจารณามาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น
นอกจากนี้ ในการประชุมเมื่อวานนี้ ECB ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% อันเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ดัชนี IBEX 35 ตลาดหุ้นสเปนพุ่งขึ้น 1.9% ปิดที่ 10,347.80 จุด หลังจากนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาได้ออกมาประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะไม่มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นภายในแคว้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับความต้องการของรัฐบาลสเปนที่เสนอให้มีการจัดการเลือกตั้ง โดยมีจุดยืนที่จะยึดอำนาจการบริหารของแคว้านกาตาลุญญา
หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ทะยานขึ้น 11.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
อย่างไรก็ตาม หุ้นบาร์เคลย์ส ร่วงลงถึง 7.4% หลังธนาคารยักษ์ใหญ่รายนี้เปิดเผยรายได้ประจำไตรมาส 3 ร่วงลง 5% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.17 พันล้านปอนด์ ส่วนหุ้นดอยซ์แบงก์ ปรับตัวลง 0.9% แม้ธนาคารเปิดเผยผลกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 ก็ตาม