ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ และรายงานยอดขายรถยนต์ของอังกฤษที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,562.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.93 จุด หรือ +0.03%
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่อย่างบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2.6% ขณะที่หุ้นริโอทินโต ปรับตัวขึ้น 1.3% ขณะที่หุ้นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ รอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพี ต่างก็ปรับตัวขึ้น 0.8%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานข่าว กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลาซิส อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมกุฎราชกุมารอัลวาลีด บิน ทาลาล และเจ้าชายคนอื่นๆ รวมทั้งรัฐมนตรี มหาเศรษฐี และอดีตเจ้าหน้าที่อีกหลายคน
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยกดดันในระหว่างวัน จากการแข็งค่าของเงินปอนด์ รวมทั้งรายงานที่ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในอังกฤษ ร่วงลง 12.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของอังกฤษในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ฮาลิแฟกซ์จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านประจำเดือนต.ค. ส่วนในวันศุกร์ ทางการอังกฤษจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.