ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงเกือบ 250 จุดในวันนี้ หลังมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
ณ เวลา 00.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,315.61 จุด ลดลง 247.75 จุด หรือ 1.05%
หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 การชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษีดังกล่าว ถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ การชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีได้มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ แต่ก็จะส่งผลให้บริษัทของสหรัฐที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศเลื่อนการตัดสินใจย้ายฐานกลับสู่สหรัฐ เนื่องจากต้องการรอให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซาในวันนี้
บริษัทโคห์ล คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานกำไรในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอร์ริเคน
ทั้งนี้ โคห์ล คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 70 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 72 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ดี ยอดขายอยู่ที่ระดับ 4.33 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.30 พันล้านดอลลาร์
เมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังในไตรมาส 3 โดยแม้กำไรจะสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็มีรายได้และยอดขายต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ เมซีส์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 23 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 19 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ดี ยอดขายในห้างเมซีส์ที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 1 ปี ร่วงลง 3.6% เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะลดลง 2.6%
นอกจากนี้ รายได้อยู่ที่ระดับ 5.28 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.31 พันล้านดอลลาร์
ไทม์ อิงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐ รายงานรายได้ในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยรายได้จากค่าโฆษณาของสื่อออนไลน์ไม่สามารถชดเชยรายได้โฆษณาที่ลดลงในสื่อสิ่งพิมพ์
ทั้งนี้ ไทม์ อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 36 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 29 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ดี รายได้ร่วงลง 9.5% สู่ระดับ 679 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 693 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนยังจับตาบริษัทอีกหลายแห่งที่จะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดวันนี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทดิสนีย์ และนิวส์ คอร์ป