ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) จากปัจจัยราคาน้ำมันที่ดิ่งลง ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงกันถ้วนหน้า นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากราคาแร่โลหะสำคัญที่ปรับตัวลง ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ส่วนใหญ่ปิดในแดนลบเช่นกัน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 41.81 จุด หรือ -0.56% ปิดที่ 7,372.61 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันและแร่โลหะที่ปรับตัวลง โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ดิ่งลงกว่า 0.7% เมื่อคืนนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง
การปรับตัวลงของราคาน้ำมันได้กดดันหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลดลง 1.5% ขณะที่หุ้นบีพี ร่วง 1.6%
ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่รายใหญ่อย่างเกลนคอร์ ปรับตัวลง 1.4% หุ้นริโอ ทินโต ขยับลง 0.9% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 1.2% หลังราคาทองแดงร่วงลง 0.2% จากแรงกดดันของข้อมูลภาคการผลิตที่น่าผิดหวังของจีน
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นบาร์ราตต์ เดเวลลอปเมนต์ส ร่วงลง 1.1% ถึงแม้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำรายนี้จะเปิดเผยยอดขายบ้านล่วงหน้าที่พุ่งขึ้นถึง 8.4% ก็ตาม