ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังบริษัทจดทะเบียนเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการที่โบรกเกอร์ประกาศปรับลดน้ำหนักหุ้นของหลายบริษัท ประกอบกับการที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ระดับ 383.80 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,993.73 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -0.41% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,319.17 จุด ลดลง 17.22 จุด หรือ -0.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,380.68 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ -0.08%
สำหรับภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.3%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นของบริษัทเอลลิเออร์ กรุ๊ป ร่วงลงกว่า 18% ขณะที่หุ้นของบริษัทคาริลเลียน ร่วงหนักถึง 48% หลังจากที่มีรายงานว่า ผลกำไรของบริษืทปีนี้จะออกมาต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของตลาดอย่างมาก
นอกจากนี้ การที่เหล่าโบรกเกอร์ได้ออกมาปรับลดน้ำหนักหุ้นของบริษัทต่างๆลง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาด โดยหุ้นของอินดุสเตรีย เด ดิเซโญ เตกซ์ตีล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเสื้อผ้าแบรนด์ดังอย่างซารา ปรับตัวลง 1.7% หลังจากที่ธนาคารเบอเรนเบิร์กประกาศปรับลดน้ำหนักหุ้นของทางบริษัท ขณะที่หุ้นบริษัทเฟรซีเนียส เอสอี ซึ่งเป็นบริษัทด้านสุขภาพยักษ์ใหญ่ของยุโรปร่วงลง 5.4% หลังยูบีเอสลดน้ำหนักหุ้นลงสู่ระดับ "neutral"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ โดยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานข่าวว่าว่า ทีมสอบสวนคดีเกี่ยวกับการที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ได้ขออำนาจศาลในการร้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะถูกส่งไปให้กับคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาทำการพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการโหวตในวุฒิสภาแบบเต็มคณะ จะจัดขึ้นหลังจากพ้นเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าไปแล้ว โดยวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆ นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน Frankfurt Banking Congress ที่เมืองแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนีเมื่อวานนี้ว่า ถึงแม้ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะอยู่ในสภาพที่สดใส แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ยังคงขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นจากธนาคารกลางยุโรป
ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ด้านเงินเฟ้อยังคงซบเซา ดังนั้น ในขณะที่เรามีความเชื่อมั่นในเรื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เราจะเป็นต้องอดทนและใช้วิธีการที่ต่อเนื่องกับนโยบายการเงิน เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะสามารถบรรลุเป้าหมายในเรื่องราคาในระยะกลางได้