ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) โดยแรงบวกในตลาดถูกสกัดจากปัจจัยสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร ซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มส่งออกให้ปรับตัวลดลง
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 8.78 จุด หรือ +0.12% ปิดที่ 7,389.46 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ถูกกดดันจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในเยอรมนี หลังพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล คว้าน้ำเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่ายเมื่อวานนี้ ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เยอรมนีอาจจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด
เมื่อคืนนี้ สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.3241 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 1.3216 ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.1285 ยูโร จากระดับ 1.1207 ยูโร
ทั้งนี้การแข็งค่าของสกุลเงินปอนด์จะส่งผลกระทบต่อหุ้นบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะมีเงินรายได้จากการดำเนินงานในต่างประเทศลดลง หากมีการนำเงินสกุลต่างประเทศไปแลกเป็นเงินปอนด์
หุ้นบริษัทข้ามชาติที่น่าจับตา หุ้นสเมอร์ฟิต แคปปา กรุ๊ป ขยับลง 0.4% และหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส ลดลง 0.7%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ได้รับแรงหนุนให้ปิดบวกจากหุ้นกลุ่มสร้างบ้านที่ปรับตัวขึ้นกันทั้งกระดานเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นบาร์ราตต์ เดเวลลอปเมนต์ส พุ่งขึ้น 1% หุ้นเทย์เลอร์ วิมปีย์ เพิ่มขึ้น 0.4% และหุ้นเพอร์ซิมมอน ขยับขึ้น 0.3%