ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นโอคาโด กรุ๊ป ซึ่งทะยานขึ้นกว่า 20%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 387.02 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,059.53 จุด เพิ่มขึ้น 59.33 จุด หรือ +0.46% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,390.48 จุด เพิ่มขึ้น 30.39 จุด หรือ +0.57% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,460.65 จุด เพิ่มขึ้น 76.75 จุด หรือ +1.04%
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานของตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น 1.4% ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวก หลังจากบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศว่า ทางบริษัทจะยกเลิกแผนการจ่ายเงินปันผลในรูปของตั๋วเงิน แต่จะจ่ายเป็นเงินสดแทนตั้งแต่งวดไตรมาส 4 ของปี 2560 นอกจากนี้ รอยัล ดัทช์ เชลล์ ยังเปิดเผยแผนการที่จะซื้อหุ้นกลับคืนวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงระหว่างปี 2560-2563 โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 3% หุ้นโอคาโด กรุ๊ป ทะยานขึ้น 21% หลังจากบริษัทกาสิโน กูชาร์ด เปอร์ราชอง ได้ลงนามในข้อตกลงกับโอคาโด กรุ๊ป เพื่อร่วมกันพัฒนาแพลทฟอร์มการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ในฝรั่งเศส โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกาสิโน กูชาร์ด เปอร์ราชอง พุ่งขึ้น 2.3%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวผันผวน ถึงแม้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารต่างๆในอังกฤษ ซึ่งระบุว่า ธนาคารต่างๆยังคงสามารถปล่อยกู้ต่อไปได้ แม้ว่ากระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) จะเป็นไปอย่างไร้ระเบียบก็ตาม
ทั้งนี้ หุ้นบาร์เคลย์ส ขยับลง 0.1% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ลดลง 1% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ เพิ่มขึ้น 1.4% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เพิ่มขึ้น 1.1% และหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 1.3%