ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 56.87 จุด รับหุ้นพลังงาน,เทคโนโลยีพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 12, 2017 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดทำนิวไฮ หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความตื่นตระหนกเกี่ยวกับเหตุก่อการ้ายที่เกิดขึ้นในย่านไทม์สแควร์เมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,386.03 จุด เพิ่มขึ้น 56.87 จุด หรือ +0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,659.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.49 จุด หรือ +0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,875.08 จุด เพิ่มขึ้น 35.00 จุด หรือ +0.51% ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.7% นำโดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเฟซบุ๊ก ขยับขึ้นราว 0.1% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล อิงค์ ดีดตัวขึ้น 0.2% และหุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 0.7% ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ท่อส่งน้ำมันในภูมิภาคทะเลเหนือของอังกฤษได้ปิดการดำเนินงานเพื่อซ่อมแซม โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้น 0.4% หุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 0.4% หุ้นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลต่างก็ปรับตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่า สัญญาบิตคอยน์ซึ่งเริ่มทำการซื้อขายวันแรกที่ตลาด CBOE Global Markets Inc เมื่อวานนี้ ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นมาราธอน พาเทนท์ พุ่งขึ้น 41.9% หุ้นไรออท บล็อกเชน ทะยานขึ้น 45.5% และหุ้นเครสวัล แคปิตอล พุ่งขึ้น 46% ส่วนหุ้นกลุ่มประกันร่วงลง หลังจากสถานการณ์ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยหุ้นทราเวลเลอร์ส คอมพานีส์ และหุ้นออลสเตท คอร์ป ปรับตัวลง 0.4% และ 0.1% ตามลำดับ สำหรับเหตุก่อการร้ายซึ่งเกิดขึ้นในย่านไทม์สแควร์ เมืองแมนฮัตตันของสหรัฐเมื่อวานนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นนิวยอร์กในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นไม่นาน นักลงทุนก็เริ่มคลายความตื่นตระหนก ซึ่งช่วยให้การซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ตำรวจนิวยอร์กสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง วัย 27 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการที่ไปป์บอมบ์ที่เขาทำขึ้นได้เกิดระเบิดออกมา ขณะที่เหตุก่อการร้ายในครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นในเดือนมี.ค.และมิ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมาร์กิต และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ