ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่หลายบริษัทประกาศว่าจะนำเม็ดเงินที่ประหยัดได้จากมาตรการปรับลดภาษีไปลงทุนเพิ่มขึ้น และเพิ่มค่าจ้างให้แก่พนักงาน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในไตรมาส 3 สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
ณ เวลา 22.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,809.81 จุด เพิ่มขึ้น 83.16 จุด หรือ 0.34%
หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้
ทั้งนี้ บริษัทเอ็นบีซี ยูนิเวอร์แซล, คอมแคสต์, โบอิ้ง, เอทีแอนด์ที และเวลส์ ฟาร์โก ประกาศว่า บริษัทจะเพิ่มค่าแรง และโบนัสให้แก่พนักงาน รวมทั้งเพิ่มงบในการใช้จ่าย และลงทุน หลังสภาคองเกรสให้การรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย มาจากการรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีที่ผ่านการอนุมัติของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้ โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% โดยลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสู่ระดับ 37% จากระดับ 39.6% ขณะเดียวกัน จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปอีก 1 ปีตามร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา
ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี และจะถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสนับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้าย สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.2% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3% แต่เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2557 และดีดตัวขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งมีการขยายตัว 3.1%
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 อยู่ที่ระดับ 3.0%
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2557 ที่เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่ระดับ 3% หรือมากกว่า เป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจมีมูลค่า 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 โดยลดลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.90 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การลงทุนในเครื่องมือทางธุรกิจอยู่ที่ระดับ 10.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และเพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 10.4%
ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.2% จากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 2.3% หลังจากพุ่งขึ้น 3.3% ในไตรมาส 2
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตเบื้องต้นดีดตัวขึ้น สู่ระดับ 26.2 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 22.7 ในเดือนพ.ย.