ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญาของสเปน โดยการเลือกตั้งในแคว้นแห่งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเป็นแคว้นขนาดใหญ่ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.6% แตะที่ 390.69 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,109.74 จุด เพิ่มขึ้น 40.57 จุด หรือ +0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,603.98 จุด เพิ่มขึ้น 78.76 จุด หรือ +1.05% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,385.97 จุด เพิ่มขึ้น 33.20 จุด หรือ +0.62%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นบีพี เพิ่มขึ้น 1.6%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นแอนโตฟากาสตา เพิ่มขึ้น 1.6% และหุ้นริโอ ทินโต เพิ่มขึ้น 1.7%
หุ้นเรคกิตต์ เบนคิเซอร์ ผู้ผลิตสินค้าบริโภครายใหญ่ พุ่งขึ้น 2.1%
หุ้นโนเกีย พุ่งขึ้น 4% หลังจากบริษัทบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับใบอนุญาติสิทธิบัตรกับบริษัทหัวเว่ยของจีน
นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในแคว้นกาตาลุญญาของสเปน โดยผลนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้นของการเลือกตั้งท้องถิ่นในแคว้นกาตาลุญญาระบุว่า พรรคที่สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระจากสเปน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
ชัยชนะของพรรคที่สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระอาจส่งผลกระทบต่อรัฐบาลสเปน และสหภาพยุโรป (EU) โดยในช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศใช้มาตรา 155 แห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้าปกครองแคว้นกาตาลุญญาโดยตรง พร้อมกับเพิกถอนสิทธิในการปกครองตนเอง หลังจากคณะรัฐบาลคาตาลันในขณะนั้นประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ส่งผลให้นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ถูกตั้งข้อหากบฏ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี และขณะนี้เขากำลังลี้ภัยในเบลเยียม