ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.32 จุด หรือ -0.15% ปิดที่ 7,592.66 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์และการเงินปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสาธารณูปโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยบรรยากาศตลาดในภาพรวมถูกกดดันจากสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น โดยค่าเงินปอนด์พุ่งแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1.3398 ดอลลาร์ ภายหลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP สหราชอาณาจักรประจำไตรมาส 3 ซึ่งขยายตัว 0.3% พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้เป็น 1.7% จากระดับ 1.5% ในรายงานประมาณการก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นริโอ ทินโต ลดลง 0.7% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ขยับลง 0.4% และหุ้นเกลนคอร์ ลดลง 0.2% อย่างไรก็ตาม หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ ขยับขึ้น 0.4%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกที่น่าจับตา หุ้นคิงฟิชเชอร์ เพิ่มขึ้น 0.5% และหุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ผู้ผลิตสินค้าหรู ขยับขึ้น 0.3%