ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้ายังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทะยานขึ้น 100 จุด แม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่น่าผิดหวังในวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้
ณ เวลา 20.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 100 จุด หรือ 0.4% สู่ระดับ 25,153 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนธ.ค. โดยปรับตัวขึ้นเพียง 148,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี เช่นเดียวกับในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 252,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนต.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 211,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 244,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนธ.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 2,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ทรงตัวที่ระดับ 62.7%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ของนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาเท็กซัส เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 56.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.