ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นค้าปลีกร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) หลังจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทเทสโก และมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 397.25 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ปีนี้

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,202.90 จุด ลดลง 78.44 จุด หรือ -0.59% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,488.55 จุด ลดลง 16.13 จุด หรือ -0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,762.94 จุด เพิ่มขึ้น 14.43 จุด หรือ +0.19%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรได้สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด โดยยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของ ECB ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB จะทำการทบทวนแนวทางการสื่อสารของ ECB ในต้นปีนี้ และจะปรับใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์ของการประชุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น

รายงานการประชุมดังกล่าวบ่งชี้ว่า ECB จะตัดถ้อยคำที่ว่า "ECB จะซื้อพันธบัตรจนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของ ECB" และเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB พร้อมจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งมีมูลค่า 2.55 ล้านล้านยูโร โดยจะถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น

หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง โดยหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ กรุ๊ป ดิ่งลงถึง 7% หลังเชนซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่รายนี้เปิดเผยว่า ยอดขายในสหราชอาณาจักรในช่วง 13 สัปดาห์สิ้นสุด ณ วันคริสต์มาส ปรับตัวลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยอดขายอาหารปรับตัวลง 0.4% ขณะที่ยอดขายเสื้อผ้าร่วงลง 2.8%

ขณะที่หุ้นเทสโก ร่วงลง 4.5% หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายสินค้าในสหราชอาณาจักรในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงผิดหวังกับภาพรวมผลการดำเนินงานของเทสโก

หุ้นกลุ่มค้าปลีกรายอื่นๆปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยหุ้นเจ เซนส์บิวรี ลดลง 2.1% และหุ้นดับบลิวเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ ลดลง 1.4%