ดาวโจนส์ปรับฐาน หลังพุ่งกว่า 300 จุดวานนี้ ขณะจับตาผลประกอบการ,วิกฤตชัตดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 18, 2018 22:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พักฐานในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อวานนี้ และดีดตัวขึ้นเกือบ 5% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส และการปฏิรูปภาษีซึ่งจะช่วยหนุนผลกำไรของภาคเอกชน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาสภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งจะต้องอนุมัติกฎหมายงบประมาณชั่วคราวก่อนเส้นตายในวันพรุ่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) ขณะที่สมาชิกรัฐสภายังคงมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับนโยบายรับคนเข้าเมือง

ณ เวลา 21.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,108.24 จุด ลดลง 7.41 จุด หรือ 0.03%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 26,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ "Beige Book" ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัว และมีแนวโน้มที่สดใสในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน

ในบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งมีการรายงานผลประกอบการแล้วนั้น บริษัทจำนวน 78% รายงานตัวเลขกำไร/หุ้นสูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่ 89% รายงานกำไรสุทธิสูงกว่าคาด

มอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 4 ในวันนี้ โดยอยู่ในระดับสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ทางธนาคารมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง โดยกำไรอยู่ที่ระดับ 84 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 77 เซนต์/หุ้น ขณะที่ธนาคารมีรายได้ 9.50 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.20 พันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง 4.41 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.32 พันล้านดอลลาร์

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 41,000 ราย สู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2516

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงสู่ระดับ 250,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 150 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513

ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีในเดือนธ.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านทรุดตัวลง 8.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.192 ล้านยูนิต โดยเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 หลังจากอยู่ที่ระดับ 1.299 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.275 ล้านยูนิต

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 30 ม.ค.เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันที่ 31 ม.ค.เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย

การแถลงนโยบายประจำปีดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกของปธน.ทรัมป์ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งในปีที่แล้ว โดยการแถลงดังกล่าวจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อชาวสหรัฐทั่วประเทศ ขณะที่สำนักข่าว CNN ก็จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

คาดกันว่าปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐตามที่เขาได้เคยรณรงค์หาเสียงในปี 2559


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ