ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง ในขณะที่นักลงทุนต่างจับตาสถานการณ์การปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐ ภายหลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐยังไม่ได้อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณ รวมทั้งติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,772.02 จุด ลดลง 36.04 จุด, -0.15% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 32,240.78 จุด ลดลง 14.11 จุด, -0.04% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,827.23 จุด ลดลง 1.60 จุด, -0.09%
นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับแกนนำสภาคองเกรสและสมาชิกหลายคนในคณะทำงานของรัฐบาลเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ เกี่ยวกับผลกระทบของการที่หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนได้ถูกปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์ หลังจากวุฒิสภาไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว
นางแซนเดอร์สกล่าวว่า "คณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำงานกันอย่างหนัก เพื่อเร่งผลักดันให้หน่วยงานของรัฐบาลสามารถกลับมาดำเนินงานได้อีกครั้ง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าบรรดาทหารและครอบครัวของพวกเขา รวมทั้งเด็กๆผู้ด้อยโอกาส และชาวอเมริกันทุกคน จะได้รับการดูแลต่อไป"
นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางต่างๆในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 22-23 นี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ จะยังคงนโยบายการเงินไว้ในการประชุมวันที่ 22-23 มี.ค.นี้ และคาดการณ์ว่า BOJ จะเริ่มคุมเข้มนโยบายในช่วงเดือนก.ย.หรือต.ค.
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุมเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในกรอบ 1.25%-1.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค.นี้