ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทรายใหญ่อย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงเดินหน้าทำนิวไฮ หลังจากบริษัทเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทีวีออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,210.81 จุด ลดลง 3.79 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,839.13 จุด เพิ่มขึ้น 6.16 จุด หรือ +0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,460.29 จุด เพิ่มขึ้น 52.26 จุด หรือ +0.71%
ดัชนีดาวโจนส์พักฐานเมื่อคืนนี้ หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการที่สหรัฐสามารถหลุดพ้นจากภาวะชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หลังจากสภาคองเกรสได้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ.
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และหุ้น P&G ร่วงลง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ โดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ดิ่งลง 4.3% หลังจากบริษัทได้เปิดเผยถึงผลกระทบของค่าใช้จ่ายในการจัดทำบัญชีใหม่ อันเนื่องมาจากมาตรการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐ
ขณะที่หุ้น P&G ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 4/2560 เมื่อวานนี้ ซึ่งแม้ว่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลงจากระดับของไตรมาส 4/2559
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ยังคงเดินหน้าทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่พุ่งขึ้น 10% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ามีลูกค้าเพิ่มขึ้น 8.3 ล้านรายในไตรมาส 4/2560 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.4 ล้านราย
ทางด้านนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นเน็ตฟลิกซ์สู่ระดับ 300 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 270 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 32% จากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์
ส่วนหุ้นเทคโนโลยีตัวอื่นๆในกลุ่ม "FAANG" ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก, แอปเปิล, อเมซอน, และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ต่างก็ทะยานขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้นกว่า 2% หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 0.02% หุ้นอเมซอน พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้นกว่า 1%
หุ้นเวิร์ลพูล ผู้ผลิตเครื่องไฟฟ้าชั้นนำของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้อนุมัติมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าสำหรับที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยปกป้องผู้ผลิตในสหรัฐ แต่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในจีนและเกาหลีใต้
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560