ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) หลังจากสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 402.81 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2558
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,559.60 จุด เพิ่มขึ้น 95.91 จุด หรือ +0.71% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,731.83 จุด เพิ่มขึ้น 16.39 จุด หรือ +0.21% ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,535.26 จุด ลดลง 6.73 จุด หรือ -0.12%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากสภาคองเกรสสหรัฐสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากสถาบัน ZEW ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะระดับ 20.4 ในเดือนม.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 17.5
ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.3 จุดในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.6 จุด
หุ้นอีซี่เจ็ท พุ่งขึ้น 5.1% หลังจากทางสายการบินเปิดเผยกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 6.6% พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2561
หุ้นสกาย ผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีรายใหญ่ พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางธุรกิจของอังกฤษระบุว่า ข้อเสนอของบริษัททเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ในการซื้อกิจการของบริษัทสกายนั้น ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับสาธารณชนในประเทศ
ทั้งนี้ บริษัท ทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ของนายรูเพิร์ท เมอร์ดอค ตัดสินใจยื่นข้อเสนอวงเงิน 1.17 หมื่นล้านปอนด์ (1.52 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อซื้อหุ้นในส่วนที่เหลือของบริษัทสกาย ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การซื้อกิจการสกาย จะทำให้นายเมอร์ดอคมีอำนาจมากเกินไปในวงการสื่อของอังกฤษ
หุ้นคาร์ฟูร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทประกาศลดจำนวนพนักงาน 2,400 คนในฝรั่งเศส เพื่อลดค่าใช้จ่าย พร้อมประกาศแผนการลงทุน 2.8 พันล้านยูโรในตลาดออนไลน์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 6 เท่าจากวงเงินลงทุนในปัจจุบัน โดยหวังว่าจะทำให้มียอดขายอาหารจำนวน 5 พันล้านยูโรในตลาดอี-คอมเมิร์ซ และมีสัดส่วน 20% ในตลาดอาหารออนไลน์ภายในปี 2565
หุ้นโลจิเทค ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 8% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้น 22% ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 7 ปี