ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์ และจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,671.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด หรือ +0.08%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากเงินปอนด์อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4032 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4160 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ
นักลงทุนยังคงขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ซึ่งระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2560 มีการขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบรายไตรมาส และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 1.2% หลังจากบริษัทได้ตัดสินใจขายโครงการเหมืองถ่านหินนิว ลาร์โก และโอลด์ ลาร์โก ในแอฟริกาใต้ คิดเป็นมูลค่าราว 71.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่หุ้นเกลนคอร์ รีซอสเซส พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นริโอทินโต ปรับตัวขึ้น 2.1%
หุ้นแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ปรับตัวลง 0.2% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวยารักษาโรคปอด