ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากทางการจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตชะลอตัวลงในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทแคปิตอล พีซี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.55 จุด ลดลง 54.43 จุด หรือ -0.72%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวลง 0.5% และหุ้นริโอทินโต ร่วงลง 0.9% หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค. ขยายตัวที่ระดับ 51.3 ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนธ.ค.ที่ขยายตัว 51.6
หุ้นแคปิตอล พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทเอาท์ซอสรายใหญ่ ดิ่งลงอย่างหนักถึง 48% และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากบริษัทคู่แข่งคือ คาริลเลียน พีแอลซี ประกาศล้มละลาย เนื่องจากรัฐบาลปฏิเสธที่จะอัดฉีดเงินช่วยเหลือบริษัท
หุ้นวิซ แอร์ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ปรับตัวลง 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีลดลง เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นเทเลอร์ วิมพีย์ ดิ่งลง 2.3% หุ้นเบิร์คลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 2.1% และหุ้นเพอร์ซิมมอน ปรับตัวลง 2.7%