ดัชนีดาวโจนส์พลิกพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด หลังจากดิ่งลงอย่างมากในการซื้อขายช่วงแรก โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของเฟซบุ๊ก หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 00.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,274.94 จุด บวก 125.55 จุด หรือ 0.48%
หุ้นกลุ่มการเงิน และพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้น 5.6% ในเดือนม.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2559
ตลาดหุ้นถูกกดดันในช่วงแรก เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. โดยระบุในแถลงการณ์หลังการประชุมวานนี้ว่า เฟดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปีนี้
อย่างไรก็ดี การที่ราคาหุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 4% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ได้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด
เฟซบุ๊กเปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 4 โดยระบุว่ามีกำไร 2.21 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.95 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทรายงานรายได้ที่ระดับ 1.297 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.255 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางด้านบริษัทไมโครซอฟท์ อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 2 ในปีงบดุลบัญชีของบริษัท โดยระบุว่ามีกำไร 96 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 86 เซนต์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทรายงานรายได้ที่ระดับ 2.892 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.840 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล, อเมซอน, อัลฟาเบท และวีซ่า หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการในวันนี้
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 238,000 ราย
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 152 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513
ส่วนไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2558 จากระดับ 55.1 ในเดือนธ.ค.
ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิต และคำสั่งซื้อใหม่ แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจดีดตัวขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ชะลอตัวสู่ระดับ 59.1 ในเดือนม.ค. จากระดับ 59.3 ในเดือนธ.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 58.5
ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคการผลิต และเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งส่งออก ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่, การผลิตและการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ผลสำรวจบรรดากลุ่มอุตสาหกรรม 18 กลุ่มในภาคการผลิต พบว่า 14 กลุ่มมีการขยายตัวในเดือนม.ค.