ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลให้ความน่าดึงดูดใจในตลาดหุ้นลดน้อยลง และยังทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ในวันนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,181.34 จุด ลดลง 304.77 จุด, -1.30% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 32,640.12 จุด ลดลง 1.97 จุด, -0.01% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,867.68 จุด ลดลง 2.84 จุด, -0.15%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.756% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.987% เมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ โดยเฟดได้แถลงในการประชุมเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ว่า "อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบรายปีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในปีนี้ และมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟดในระยะกลาง"
ทั้งนี้ ถ้อยแถลงดังกล่าวแตกต่างจากการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเฟดระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน และเงินเฟ้อทั่วไป "ได้ปรับตัวลง และกำลังอยู่ในระดับต่ำกว่า 2%"
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ซึ่งรวมถึงหุ้นซอฟต์แบงค์ หุ้นซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ และหุ้นเอสเค ไฮนิกซ์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ ด้านผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะพุ่งขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.