ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้ายังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งลงเกือบ 300 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลงในคืนนี้ ต่อเนื่องจากวันศุกร์
ณ เวลา 19.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 298 จุด หรือ 1.17% สู่ระดับ 25,130 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 665.75 จุด หรือ 2.54% ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่สัปดาห์ที่แล้ว ดาวโจนส์ดิ่งลง 4.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์ในรอบ 2 ปี โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ขณะเดียวกัน การพุ่งขึ้นของตัวเลขค่าแรง หรือรายได้ต่อชั่วโมงของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อ ยังกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3% แตะ 3.074% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว เมื่อวันศุกร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ทะยานขึ้นแตะ 2.83% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในวันนี้ รวมทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการจากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งจะลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่งบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดีนี้
การลงมติในวันพรุ่งนี้จะมีขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) จำนวนกว่า 7 แสนคน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเลิกโครงการดังกล่าวภายในวันที่ 5 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลให้มีการเนรเทศผู้อพยพเหล่านี้กลับประเทศ
ขณะเดียวกัน สมาชิกสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับวงเงินงบประมาณด้านกลาโหม และที่ไม่เกี่ยวกับกลาโหมสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.นี้
ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ร่างกฎหมายงบประมาณที่จะมีการลงมติในวันพรุ่งนี้เป็นงบประมาณชั่วคราว หรืองบประมาณประจำปี 2561 ที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.นี้
หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณภายในเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงของวันศุกร์ตามเวลาไทย สหรัฐก็จะเผชิญภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เกิดการชัตดาวน์เป็นเวลา 3 วันในเดือนที่แล้ว