ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่า แกนนำวุฒิสภาชิกในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับงบประมาณระยะเวลา 2 ปี ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จนอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,893.35 จุด ลดลง 19.42 จุด หรือ -0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681.66 จุด ลดลง 13.48 จุด หรือ -0.50% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,051.98 จุด ลดลง 63.90 จุด หรือ -0.90%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า แกนนำวุฒิสภาชิกในสภาคองเกรสสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับงบประมาณระยะเวลา 2 ปี เพื่อเพิ่มงบประมาณรายจ่ายให้กับรัฐบาลอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้จะนำไปใช้จ่ายด้านการทหารเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวยังต้องรอการอนุมัติจากสภาคองเกรส
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.796% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.068% เมื่อคืนนี้
การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ประกอบกับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าแรงในสหรัฐนั้น ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ โดยกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวแสดงความเห็นว่า เฟดควรถอนตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เนื่องจากตลาดแรงงานที่ตึงตัวได้เพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ปิดตลาดร่วงลง 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4 ที่ระดับ 1.535 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.545 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นชิโปเล่ เม็กซิกัน กริลล์ ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารเม็กซิกันชื่อดัง ปิดตลาดดิ่งลง 11% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลกำไรและรายได้ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของวอลล์สตรีทก็ตาม
ส่วนหุ้นสแนป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสแนปแชท ทะยานขึ้น 48% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 4
หุ้นเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ดีดตัวขึ้น 3.3% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการแล้ว
นักลงทุนยังคงจับตาการโหวตร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในสภาคองเกรสสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่จะส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป โดยร่างงบประมาณชั่วคราวที่สภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันอังคารนั้น จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการดำเนินงานต่อไปได้อีก 6 สัปดาห์ หรือจนถึงวันที่ 23 มี.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์
ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณภายในเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงของวันศุกร์ตามเวลาไทย สหรัฐก็จะเผชิญภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง หลังจากที่เกิดการชัตดาวน์เป็นเวลา 3 วันในเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.