ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งมุมมองดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังจากที่ดัชนีร่วงลงในช่วงแรก จากความวิตกกังวลที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. อาจเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,893.49 จุด พุ่งขึ้น 253.04 จุด หรือ +1.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,698.63 จุด เพิ่มขึ้น 35.69 จุด หรือ +1.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,143.62 จุด เพิ่มขึ้น 130.10 จุด หรือ +1.86%
ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3% และหากเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI ทรงตัวที่ระดับ 2.1% ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.9%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ รวมทั้ง Nasdaq และ S&P500 ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา และสามารถปิดในแดนบวกเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนได้ซึมซับตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าว และหันมาให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นบลูชิพอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 2.6% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.1% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 2.6%
ส่วนหุ้นบลูชิพตัวอื่นๆที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) พุ่งขึ้น 2.6% เช่นกัน
หุ้นฟอสซิล กรุ๊ป ผู้จำหน่ายนาฬิกาชื่อดังของสหรัฐ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 88% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2560 ขณะที่หุ้นฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดเช่นกัน
หุ้นชิโปเล่ เม็กซิกัน กริลล์ ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารเม็กซิกันชื่อดัง พุ่งขึ้น 15.4% ขานรับข่าวการแต่งตั้งนายไบรอัน นิคคอล เป็นซีอีโอคนใหม่ของบริษัท โดยก่อนหน้านี้นายนิคคอลเคยเป็นผู้บริหารของธุรกิจทาโค เบลล์ ของบริษัทยัม แบรนด์ส
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ปรับตัวขึ้น 3% หลังจากนิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า เน็ตฟลิกซ์ได้ทำข้อตกลงทางธุรกิจมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์กับไรอัน เมอร์ฟีย์ ผู้ผลิตรายการทีวีชื่อดังของฮอลลีวู๊ด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกร่วงลง 0.3% ในเดือนม.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังระบุว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% เช่นเดียวกันในเดือนพ.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.พ. จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน