ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากหุ้นเดมเลอร์ที่ร่วงลงกว่า 2% หลังจากสื่อของเยอรมนีรายงานว่า เดมเลอร์อาจใช้ซอฟต์แวร์บางตัวเพื่อทำให้รถยนต์ของบริษัทผ่านการทดสอบมลพิษของหน่วยงานสหรัฐ ขณะเดียวกันภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 378.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,256.18 จุด ลดลง 25.40 จุด หรือ -0.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,385.60 จุด ลดลง 66.36 จุด หรือ -0.53% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,247.66 จุด ลดลง 47.04 จุด หรือ -0.64%
หุ้นเดมเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 2.1% หลังจากหนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนีรายงานว่า เดมเลอร์อาจใช้ซอฟต์แวร์บางตัวเพื่อทำให้รถยนต์ของบริษัทผ่านมาตรฐานการทดสอบมลพิษของหน่วยงานสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาหุ้นเดมเลอร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่บริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2561
หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ร่วงลง 7.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายทรงตัวในปี 2560
หุ้นดอยซ์แบงก์ ดีดตัวขึ้น 2.1% หลังจากมีรายงานว่า ดอยซ์แบงก์เตรียมปลดพนักงานในธุรกิจวาณิชธนกิจอย่างน้อย 250 คนในสำนักงานสาขาต่างๆ ซึ่งรวมถึงในลอนดอนและสหรัฐ ขณะที่ตัวเลขดังกล่าวอาจสูงขึ้นถึง 500 ราย
รายงานยังระบุด้วยว่า ดอยซ์แบงก์อยู่ในระหว่างการปลดพนักงาน 9,000 คนจากระดับในปี 2558 หรือประมาณ 1 ใน 10 คน โดยคาดว่าจะมีการปลดพนักงาน 4,000 คนในเยอรมนี
นักลงทุนจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 0% ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.