ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากตลาดพันธบัตรของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้ปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า พรรคฝ่ายค้านของอังกฤษได้ออกมาสนับสนุนให้อังกฤษทำข้อตกลงกับสภาพยุโรป (EU) เพื่อจะช่วยให้อังกฤษสามารถเข้าถึงตลาดของ EU ได้ หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU แล้ว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,289.58 จุด เพิ่มขึ้น 45.17 จุด หรือ +0.62%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่พุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากตลาดพันธบัตรของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ โดยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.840% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.129%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้ปัจจัยบวกหลังจากนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษเปิดเผยว่า พรรคเลเบอร์สนับสนุนให้อังกฤษทำข้อตกลงกับ EU เพื่อจะเปิดทางให้อังกฤษยังสามารถเข้าถึงตลาด EU ได้ หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU แล้ว โดยท่าทีของพรรคฝ่ายค้านนั้น แตกต่างจากจุดยืนของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ไม่ได้ให้ความสนใจต่อการเข้าถึงตลาด EU แต่จะใช้แนวทางการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศอื่นๆนอกกลุ่ม EU แทน
หุ้นแอสโซซิเอทเต็ด บริติช ฟู้ดส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพรีมาร์ค พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายในธุรกิจทุกภาคส่วนจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
หุ้นแบงก์ ออฟ ไอร์แลนด์ กรุ๊ป ร่วงลง หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีลดลง 18% ในปีงบการเงิน 2560